カテゴリーから探す
場所から探す
東京都
関東
北海道・東北
甲信越・北陸
東海
関西
中国
四国
九州・沖縄
タイ県
BTS
MRT
ARL
ワイワイタイランド.COM >  コラムカテゴリ >  タイと日本の未来の作り方 >  【インタビュー】タイ古式マッサージでタイと日本の未来を作る

【インタビュー】タイ古式マッサージでタイと日本の未来を作る

タイ古式マッサージでタイと日本の未来を作る
คอลัมน์วิธีสร้างอนาคตประเทศไทย

タンソンジット・プリダー氏
ครั้งที่ 1 นวดแผนไทย

หากจะพูดถึงเรื่องการนวดแผนไทยแล้ว สถานที่ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “นวดวัดโพธิ์” ที่ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยไปมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คู่กับการนวดวัดโพธิ์ในทุกยุคทุกสมัยก็ยังคงเป็น คุณ ปรีดา ตั้งตรงจิตร ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) และศูนย์สุขภาพ เชตวัน ศาลายา จ.นครปฐม มาอย่างยาวนาน ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลแนวหน้าเพื่อขับเคลื่อนและเสริมสร้างภาพลักษณ์วงการนวดแผนไทยมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว

タイ古式マッサージと言ったら、一番有名なのは「ワットポー」です。どんなに時代が変わっても、ワットポーのタイ古式マッサージを支えて共に歩んだのは、現在ナコンパトム県にある「ワットポー・マッサージスクールとチェタワンヘルスセンター」の校長を務めている「タンソンジット・プリダー」さんです。30年間ものタイ古式マッサージ業界をリードし、タイ古式マッサージの印象を促進させてきた方です。

 

คุณ ปรีดา ตั้งตรงจิต เกิดที่จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ เรียนจบระดับปริญญาตรีในสาขาเภสัชศาสตร์บัณฑิต และเข้าทำงานเป็นพนักงานในบริษัทยาของต่างชาติแห่งหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่างานนั้นไม่ใช่งานแนวที่ถนัด อยากจะทำงานที่เกี่ยวกับสายบริหารด้วย จึงได้ตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารจัดการที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลับมารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท เวชภัณฑ์ไบเออร์ จำกัด หลังจากทำงานอยู่สักระยะก็รู้สึกเบื่อกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน จึงลาออกมาตั้งบริษัท หจก.ไทยเมดิแคร์ ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกยาจากต่างประเทศ จนกระทั่งในปี 2530 ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน เมื่อคุณปรีดาเข้ามารับช่วงต่อการดูแล โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) จากคุณพ่อที่เกิดล้มป่วยลง ซึ่งในตอนนั้นคุณปรีดาไม่มีความรู้เกี่ยวกับแพทย์แผนโบราณเลย แต่ก็ได้เริ่มเรียนและศึกษาแพทย์แผนไทยโบราณอย่างจริงจัง จนสามารถสอบและได้รับใบประกอบโรคศิลป์สาขาเภสัชกรรมแผนไทยและเวชกรรมแผนไทยในที่สุด

「タンソンジット・プリダー」さんはバンコク出身で薬学部を卒業した後、外資系の製薬会社の会社員を務めていました。仕事に向いていないと自覚したと同時に管理職につきたいので、アメリカのニューヨークに渡航し経営管理大学院を卒業しました。帰国して、バイエル薬品株式会社の副マネージャーを務めて暫くするとサラリーマン人生に飽きて辞めました。そして、「タイメディケア」という貿易会社を起業し、1987年に父が病気で倒れたのをきっかけに「ワットポー・マッサージスクールとチェタワンヘルスセンター」の管理職を受け継ぎました。当時は、タイ伝統医療についての知識がまったくありませんでしたが、勉学に励み「タイ伝統医療の薬剤・医療の免許書」を取得することができました。

 

คุณ มาโคโตะ เอ็นโด ผู้บริหารนิตยสาร WAIWAITHAILAND ก็ชื่นชอบในศาสตร์เกี่ยวกับการนวดมาเนิ่นนาน ได้ศึกษาวิธีการนวดตามแบบฉบับต่าง ๆ และได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ “ความแตกต่างระหว่างการนวดแผนญี่ปุ่นกับการนวดแผนไทย” และทำให้รู้ว่าการนวดแผนไทยนั้นทำให้เรารู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากกว่าการนวดแผนญี่ปุ่น ทั้งเทคนิคและวิธีการนวดก็ต่างจากแบบฉบับญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง หลังจากเริ่มศึกษาการนวดแผนไทยอย่างจริงจัง คุณเอ็นโดจึงได้ก็มีโอกาสพบกับคุณปรีดาครั้งแรกในปี 1991 เนื่องจากในตอนนั้นคุณเอ็นโดที่หลงใหลในการนวดแผนไทย ได้มีความคิดที่จะนำความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทย ไปเผยแพร่และถ่ายทอดให้กับคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะในยุคนั้นคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหลาย ๆ คน อาจจะยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เก่ง แต่การนวดแผนไทยเป็นศาสตร์การบำบัดที่สวยงาม ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษา ใช้แค่ความรู้สึกในระหว่างนวดและรอยยิ้มที่จริงใจ ลงทุนไม่มาก ก็สามารถทำงานมีรายได้ในประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว หลังจากตัดสินใจได้เช่นนั้น คุณเอ็นโดจึงเดินทางมาพบกับคุณปรีดาเพื่อขอคำปรึกษาในด้านต่าง ๆ เพื่อทำความฝันที่จะนำความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทยมาเผยแพร่ในญี่ปุ่นให้เป็นจริง

月刊ワイワイタイランドを運営する遠藤誠社長は、マッサージ技法を好み、様々なマッサージを調べ、「日本のマッサージとタイのマッサージの比較」を追求した結果、日本のマッサージに対し、タイマッサージの方が身体をほぐしリラックスできると感じました。マッサージの技術も日本式とまったく違うことが分かりました。1990年頃の日本滞在のタイ人の生活をよくするため、在日タイ人の仕事としてタイ古式マッサージを広めようと考えました。タイ古式マッサージは、日本語のコミュニケーション能力が低い方でもできる伝統医療法で、かつ少額資金でも開業可能だったからです。1991年、遠藤誠社長はプリダーさんの元を訪ね、タイ古式マッサージのビジネス開業・促進について相談にのってもらいました。

 

คุณปรีดาเล่าว่า การนวดแผนไทยตอนนี้เป็นอะไรที่ไปได้ไกลมากกว่าที่คิด นอกจากการนวดเพื่อความสบายแล้ว ตอนนี้เรายังได้นำการนวดแผนไทยมาใช้เพื่อรักษาโรคหลาย ๆ โรค เช่น โรคปวดกล้ามเนื้อ หรือการเสริมสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อสำหรับผู้เป็นอัมพฤต อัมพาต หรือแม้แต่การใช้เพื่อปรับฮอร์โมนในคุณแม่หลังจากคลอดบุตรหรือการนวดจุดเพื่อกระตุ้นน้ำนม ซึ่งศาสตร์ที่เกี่ยวกับการนวดเพื่อบำบัดและดูแลคุณแม่หลังคลอดนี้ เป็นที่น่าสนใจและคาดว่าน่าจะได้รับความนิยมในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ญี่ปุ่นยังไม่มีศาสตร์การดูแลคุณแม่หลังจากคลอดบุตรโดยตรง คุณแม่ที่เหนื่อยล้าจากการตั้งครรภ์มาตลอด 9 เดือน การนวดแผนไทยจะช่วยทำให้คุณแม่ได้รับการผ่อนคลายและบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยเสริมให้ร่างกายสามารถทำงานได้ดีขึ้นในช่วงที่ต้องดูแลลูกด้วยเช่นกัน นอกจากการนวดเพื่อรักษาทางตรง เรายังสามารถใช้การนวดนำมารักษาและฟื้นฟูร่างกายในทางอ้อมได้เช่นกัน ซึ่งการนวดสามารถกระตุ้นฮอลล์โมนเอ็นโดรฟินหรือฮอลล์โมนต่างๆที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย ช่วยทำให้ผู้ป่วยมมีจิตใจที่ดีสามารถรับการรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้น

「今やタイ古式マッサージはただのマッサージではなく、身体を癒す以外にも筋肉痛の医療法や筋肉低下・麻痺性のリハビリテーションとして認められていますし、産後の母体のホルモンバランスを整え、母乳分泌を促すことも多く知られています。特に産後のマッサージは日本人に興味を持ってもらえそうです。日本は妊娠から出産まで9カ月間かけて身体を痛めた女性のために独自の産後のケアがありません。タイ古式マッサージを受けることによって、身体が癒されると共に自然な医療法で体調が回復します。マッサージは直接筋肉を改善するだけでなく、リラックス効果や脳内に分泌されたエンドルフィンや体内のホルモン分泌を活性化し、患者またはマッサージを受ける方の気持ちを良くします。」とプリダーさんが語りました。

 

และถ้าหากจะพูดถึงเรื่องวงการนวดระหว่างไทยกับญี่ปุ่น คุณปรีดาเล่าให้ฟังว่า ในช่วงหลัง ๆ มานี้ คนญี่ปุ่นให้ความสนใจเกี่ยวกับการนวดไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีคนญี่ปุ่นมากมายที่แวะเวียนเดินทางไกลเพื่อมาสัมผัสการนวดแผนโบราณแท้ ๆ รวมถึงลงเรียนวิธีการนวดไทยกับทางโรงเรียนเพื่อนำความรู้ติดตัวกลับไปด้วยก็มี ซึ่งคนญี่ปุ่นที่สนใจวงการนวดไทยก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คุณปรีดาริเริ่มการส่งพนักงานหลาย ๆ คน ให้เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว และในปี 2020 ที่จะถึงนี้ ญี่ปุ่นจะมีการจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ญี่ปุ่นเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มที่ความนิยมในอาหารไทยและการนวดไทยก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเราเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่วันนี้ อาจจะเป็นการเปิดโอกาสดีๆให้กับอนาคตก็ได้

日本とタイのマッサージ業界についてプリダーさんは、「最近、多くの日本人はタイマッサージに興味を持ち、タイで本場のタイマッサージを試そうと足を運んでくれました。またタイマッサージのコースを受講し、技術を日本に持って帰る方もいらっしゃいます。そのためスクールのスタッフには日本語を勉強するように勧めています。2020年に開催される東京五輪はたくさんの外交があるので日本はもっとオープンになるでしょうし、そのために今から準備しておくと未来のチャンスになるでしょう。」

 

สุดท้ายแล้ว การนวดไทยและแพทย์แผนไทย ยังสามารถทำได้อีกหลายสิ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้ ดังนั้นคุณปรีดาก็ยังคงหมั่นศึกษาและทำวิจัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันโรคต่าง ๆ การใช้แพทย์แผนปัจจุบันอาจจะสามารถรักษาได้เห็นผลที่ทันตามากกว่า แต่สำหรับแพทย์แผนไทยนั้นจะเป็นตัวคอยสนับสนุนเพื่อให้การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพราะในการรักษาโรคต่าง ๆ นั้น นอกจากการใช้ความรู้ทางการแพทย์ จิตใจของผู้ป่วยก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากผู้ป่วยมีจิตใจที่ดี มีการดูแลตัวเองที่ดี ใช้ชีวิตที่ถูกต้องตามหลักวิธี การเปลี่ยนแปลงจากภายในร่างกายที่ดีขึ้น ก็ย่อมทำให้ร่างกายที่เคยป่วยสามารถดีขึ้นได้เช่นกัน

最後に、私たちがまだ知らないタイ古式マッサージとタイの伝統医療法を活用する道もあるかもしれません。プリダーさん自身もタイの伝統医療法の研究を続けて行きます。タイの伝統医療法は現代医療と違い効き目がすぐに現れることではありませんが、現代医療の効果をより高める補足医療として患者を支えます。大事なのは患者の心です。薬だけでは患者を快く病気と向き合わせることができません。生活習慣を正しく身体に気を付けて、体内から体調が改善し病にかかった身体でも回復できます。